ความสำคัญของการใช้ ฝาปิดแก้วพลาสติก
ในร้านกาแฟ ร้านคาเฟ่แบรนด์ดังต่างๆ มักจะเสิร์ฟกาแฟร้อน หรือเครื่องดื่ม พร้อมกับฝาปิดแก้วชนิดต่างๆ หลากหลายรูปทรง ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในสมัยนี้ เพราะว่าปิดสนิท ปิดแน่น และมีช่องสำหรับใส่หลอด หรือยกดื่มได้โดยไม่ต้องเปิดฝา อีกทั้งยังช่วยกักเก็บอุณหภูมิ ความร้อน ให้สามารถคงอุณหภูมิได้ยาวนานขึ้นและป้องกันเศษผง ฝุ่นละอองตกลงไปในแก้วได้อย่างดี
ฝาปิดแก้ว วัสดุ PP และ PS แตกต่างกันอย่างไร
โดยทั่วไปพลาสติกที่นำมาขึ้นรูปผลิตเป็นฝาชนิดต่างๆที่พบได้ตามท้องตลาด ได้แก่ พลาสติก PP (polypropylene), PET (polyethylene terephthalate), และ PS (Polystyrene) ในบทความนี้เราจะมาเปรียบเทียบระหว่างพลาสติก PP และ PS ว่าจะมีความแตกต่างในการใช้งาน หรือผลกระทบอย่างไรบ้าง
ฝาพลาสติก PP | ฝาพลาสติก PS |
---|---|
ทนความร้อนได้ถึง 100°C | ไม่ควรใส่อาหารร้อนจัด |
เนื้ออ่อน ยืดหยุ่น | เนื้อบาง เสียรูปได้ง่าย |
ปลอดภัยต่ออาหาร | อาจก่อให้เกิดสารก่อมะเร็งเมื่อถูกความร้อนสูง |
เผาไหม้เกิดมลภาวะต่ำ | เผาไหม้เกิดมลภาวะสูง |
ปิดแก้วแน่นสนิท | ปิดแก้วแน่นสนิท |
สีใส ขุ่นเล็กน้อย | สีขาว ดำ สีทึบ |
แข็งแรง ทนทาน ไม่ฉีกขาด | ควรใช้เพียงครั้งเดียว |
รีไซเคิลได้ | อันตรายเมื่อทิ้งตามธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม |
พลาสติกพอลิสไตรีน (Polystyrene, PS)
พลาสติก PS เป็นพลาสติกที่มีความบาง น้ำหนักเบา จึงมีการนำมาผลิตเป็นฝาปิดแก้วพลาสติก แต่ด้วยคุณสมบัติที่ไม่แตกต่างกันมากกับฝาจากวัสดุ PP อีกทั้งยังมีน้ำหนักที่เบา ราคาถูก จึงพบได้ทั่วไปตามท้องตลอด แต่ถ้าหากจะเปรียบเทียบกันแล้ว ฝาที่ทำจากพลาสติก PP.PET จะมีความปลอดภัยมากกว่าในการใช้งาน เนื้อจากจะปลอดสารปนเปื้อนมากกว่า เมื่อสัมผัสกับอาหารโดยตรง โดยเฉพาะอาหารร้อน หรือเครื่องดื่มร้อนๆ กาแฟร้อนๆ ก็อาจจะทำให้สารที่เคลือบอยู่กับพลาสติก PS หลุดออกมาเจือปนได้